บางครั้งชีวิตจริงก็ช่างละม้ายคล้ายคลึงกับนวนิยายจนหลายคนอดสงสัยไม่ได้ว่าคนอ่านแอบเลียนแบบตัวละครในเรื่องสมมติกันบ้างหรือเปล่า เหมือนอย่างที่ "วูล์ฟกัง พริคโลพิล" (Wolfgang P.)ลักพาตัวหญิงที่ตัวเองหมายปองมาคุมขังแบบตัวเอกในนิยายเรื่องดังที่กลายเป็นภาพยนตร์เมื่อหลายสิบปีก่อนยังไงยังงั้น ข่าวเด่นประเด็นร้อนในออสเตรีย ประเทศเพื่อนบ้านของเยอรมันเมื่ออาทิตย์ก่อน คงไม่มีข่าวไหนดังเท่ากับการหนีตายจากการถูกกังขังหน่วงเหนี่ยวในห้องใต้ดินของสาวน้อยวัย 18 ที่ชื่อนาตาชา คามพุชท (Natascha Kampusch)กว่า 8 ปีครึ่งที่สาวนาตาชาโดนหนุ่มใหญ่วัย 43 ปีที่ชื่อ "วูล์ฟกัง พริคโลพิล" หอบขึ้นรถตู้ แล้วนำไปกักขังไว้ในห้องใต้ดินที่บ้านตัวเอง โดยไม่มีเพื่อนบ้านคนไหนได้รับรู้ชะตากรรมของนาตาชาเลยแม้แต่น้อย "เราต้องยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีส่วนใกล้เคียงกับนวนิยายมาก เรายังลองค้นบ้านของคนร้ายดูเลยว่ามีหนังสือหรือภาพยนตร์เกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่หรือเปล่า" นายเฮลมุท ไกรเนอร์ โฆษกตำรวจ เผย พร้อมกับชี้ว่า พฤติกรรมของนายพริคโลพิลช่างละม้ายใกล้เคียงกับตัวเอกของนวนิยายเรื่อง "The Collector" แต่งโดยนักเขียนชาวอังกฤษอยู่มาก นวนิยายเรื่องนี้ได้รับการตีพิมพ์เมื่อปี 2506 และเคยถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์เมื่อปี 2508
ในเรื่องสมมติเรื่องนั้น ตัวเอก "นายเฟรเดริค เคล็กก์" แอบหลงใหลนักศึกษาด้านศิลปะอยู่คนหนึ่ง และแอบเฝ้ามองเธออยู่ตลอดเวลา ในที่สุดเขานำเงินก้อนโตที่ได้มาจากการพนันบอลมาใช้ลักพาตัวเธอด้วยการซื้อรถตู้และใช้เงินอีกส่วนซื้อบ้านที่มีห้องใต้ดินมิดชิดสำหรับคุมขังเหยื่อของเขา
แต่นายเคล็กก์ไม่ได้ทรมานเหยื่อ หากแต่เพียรพยายามจะอ้อนวอนขอความรักจากเธอและซื้อเพลงโมสาร์ทมาให้เธอฟัง เขาเป็นเหมือนชายขี้เหงาแสนน่าสงสารที่เฝ้ารอคอยหาความรัก ในชีวิตจริง นายพริคโลพิลเองก็เฝ้าติดตามหนูน้อยนาตาชาวัย 10 ขวบ อยู่นาน ก่อนจะลงมือลักพาตัวเป็นผลสำเร็จเมื่อเดือนมีนาคม 2541 ขณะที่เธอกำลังเดินจากบ้านไปโรงเรียน เขาเคยบอกหนูน้อยนาตาชาด้วยว่า หากการลงมือครั้งดังกล่าวไม่ประสบผล เขาก็คงลงมือจับเธอในวันหลังอยู่ดีเพราะได้จัดเตรียมรถตู้และห้องใต้ดินไว้เสร็จสรรพแล้ว แม้ห้องดังกล่าวจะมีขนาดพื้นที่เพียง 8 ตารางเมตรเท่านั้น แต่ก็มีโถส้วม มีอ่างล้างหน้า และมีเตียงครบครัน
ในระหว่างถูกคุมขัง นายพริคโลพิลก็ดูแลใส่ใจเหยื่อของเขาไม่น้อยเพราะได้จัดเตรียมหนังสือให้เธอ รวมทั้งยังสอนหนังสือเธอด้วย แม้ว่าจะใช้เธอทำงานบ้านและงานในสวนบ้าง แต่ก็พาเธอออกไปเที่ยวข้างนอกด้วยเหมือนกัน นายพริคโลพิลมีฐานะดีตามสมควร เพราะไม่ใช่แค่ช่างเทคนิคด้านโทรคมนาคมธรรมดาๆ หากแต่ยังมีหุ้นในบริษัทที่ตัวเองทำงานอยู่ด้วย ดังนั้นจึงมีเวลาอยู่บ้านมาก ในกรณีที่ไม่อยู่บ้าน ก็จะจับหนูน้อยนาตาชาลงไปขังไว้ในห้องใต้ดินที่มิดชิด โชคดีสำหรับหนูน้อยนาตาชาและเด็กสาวรายอื่นที่ชีวิตจริงไม่จบลงแบบในนวนิยาย เพราะเหยื่อในเรื่อง "The Collector" พยายามหลบหนีหลายต่อหลายครั้ง แต่ไม่สำเร็จจนสุดท้ายเธอล้มป่วยและเสียชีวิตไปในที่สุด ส่วนนายเคล็กก์นั้นแม้จะเศร้าโศกเสียใจต่อการตายจากไปของเธอและเคยคิดอยากฆ่าตัวตาย แต่เขากลับล้มเลิกความคิดนั้นและหันไปมองหาเหยื่อรายใหม่แทน ต้องยอมรับว่า นาตาชา เป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งมาก จากวันที่เธอถูกลักพาตัวไประหว่างเดินไปโรงเรียน เมื่ออายุ 10 ขวบ ในละแวกหมู่บ้านเล็กๆ รอบนอกกรุงเวียนนา ข่าวเล่าว่าเธอถูกมารดาบังเกิดเกล้าตบหน้า มีปากเสียงกันเล็กน้อยเรื่องคู่รักใหม่ของแม่ ที่ยังไม่มีการยืนยันโดยตรงจากปากของนาตาชา แต่พวกนักข่าวก็พยายามขุดคุ้ยเรื่องนี้ขึ้นมาเพื่อขายข่าว
หลังจากวันนั้น นาตาชา ถูก "วูล์ฟกัง พริคโลพิล" กักขังไว้ในห้องลับชั้นใต้ดินที่เก็บเสียงเป็นอย่างดี เธอต้องทนทุกข์ทรมานอยู่ในนั้นแบบไม่เห็นเดือนเห็นตะวัน ลองคิดดูเด็กวัย 10 ขวบ ชีวิตกำลังจะเริ่ม โชคชะตากลับเล่นตลกกับเธอเพียงคนเดียวอย่างนั้นหรือ นี่คือสิ่งที่ นาตาชา คิดอยู่ในใจเสมอ แต่กำลังใจเธอดีเยี่ยมมาก เพราะเธอมองหาลู่ทางกลับสู่อิสรภาพตลอดเวลา แม้ "วูล์ฟกัง พริคโลพิล" จะพยายามข่มขู่ว่า ไม่เขาก็เธอจะต้องตายจากกัน หากเธอหลบหนีเขาไปได้ รวมทั้งเพื่อนบ้านรอบๆด้วย
จนวันนี้ 8 ปีครึ่ง สวรรค์ให้โอกาสเธออีกครั้ง จังหวะที่ "วูล์ฟกัง พริคโลพิล" เผลอ เธอวิ่งแบบไม่คิดชีวิตเพื่อขอความช่วยเหลือจากเพื่อนมนุษย์รอบข้าง แต่ก็อ่ะนะ สังคมฝรั่งก็ต่างคนต่างอยู่ไม่ผิดไปจากกรุงเทพบ้านเราเท่าไหร่หรอก กว่าเธอจะขอให้คนโทรศัพท์ไปแจ้งตำรวจได้ ก็เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน
หลังจากที่หลบหนีออกมาได้สำเร็จ ผิดความคาดหมายที่ทุกคนคิดว่าเธอจะต้องกลับคืนสู่อ้อมอกพ่อกับแม่ แต่นาตาชากลับเลือกที่จะอยู่คนเดียว ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดจากนักจิตวิทยาแทน นี่คงเป็นสิ่งที่บอกได้นัยๆ ว่าเธอคงไม่คิดว่าครอบครัว(ที่แตกร้าว)ของเธอจะเป็นที่พึ่งได้ แม้ว่าทั้งพ่อและแม่(ที่แยกทางกันไปนานแล้ว)จะพยายามเรียกร้องเอานาตาชากลับมาสู่อ้อมอกก็ตามที สื่อหลายฉบับพยายามติดต่อขอสัมภาษณ์โดยเสนอเม็ดเงิน เพื่อเข้ากองทุนบำบัดฟื้นฟูจิตใจให้กับเธอ แต่ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจให้สัมภาษณ์ผ่านรายการโทรทัศน์รายการหนึ่ง ทุกคนทึ่งกับผู้หญิงแกร่งคนนี้มาก ถึงเธอจะออกอาการกลัวแสงจ้าๆ แล้วก็ยังคงแสดงความเป็นเด็กในบางครั้ง แต่เธอก็แสดงให้โลกเห็นถึงกำลังใจอันเข้มแข็งของเธอ
หลังจากที่เธอหนีมาไ้ไม่กี่วัดน "วูล์ฟกัง พริคโลพิล" ก็ปลิดชีพตัวเองตามสัญญา ด้วยการกระโดดขวางรถไฟในเวียนนา
"วูล์ฟกัง พริคโลพิล" ที่ชดใช้กรรมที่ตัวเองก่อไปแล้ว
น่าชื่นชมสื่อของออสเตรียมากที่ไม่ได้แสดงความละลาบละล้วงถึงความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับ "วูล์ฟกัง พริคโลพิล".. ไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้แม้แต่น้อย ถึงเรื่องราวกว่า 8 ปีกับชายหนุ่มวัย 35 ปี (ในขณะนั้น) ที่อยู่ภายใต้หลังคาเดียวกัน เป็นบ้านเรารึ คงโดนวิสวัทหรือไม่ก็สรยุทธไล่เบี้ยในสิ่งที่เธอไม่อยากพูดแน่ๆ ปัจจุบัน น.ส.นาตาชา คัมพุช เติบโตเป็นสาวสวยและกำลังได้รับการดูแลอย่างดีจากนักจิตวิทยาและทีมแพทย์เพื่อช่วยให้เธอสามารถปรับตัวกลับมาใช้ชีวิตอยู่ได้ในสังคม เธอมีความฝันว่าอยากจะเรียนและทำงานเป็นดาราท่ามกลางกำลังใจจากทุกคนในสังคมที่อยากให้เธอได้รับสิ่งดีๆ ชดเชยความทุกข์ที่เธอได้รับตลอด 8 ปีที่ผ่านมา
ขอขอบคุน เรื่องราวจาก http://my.dek-d.com/writer/story/view.